PwC แนะธุรกิจวางกลยุทธ์รับมือ AI หลังความเสี่ยงด้านไซเบอร์เพิ่มสูงขึ้น : อินโฟเควสท์

PwC ประเทศไทย แนะผู้นำธุรกิจไทยเตรียมความพร้อมเชิงกลยุทธ์ในการนำปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence: AI) มาใช้ โดยเน้นที่การปกป้องข้อมูลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ หลังเทคโนโลยีนี้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง
นาย ริชี อานันท์ หุ้นส่วนสายงานที่ปรึกษา บริษัท PwC ประเทศไทย กล่าวว่า ผลกระทบของ AI ต่อความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการกำกับดูแลข้อมูลว่า AI กำลังพลิกโฉมภาคธุรกิจต่าง ๆ ของไทยอย่างมีนัยสำคัญ เช่น ช่วยให้องค์กรสามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานซ้ำ ๆ ให้เป็นอัตโนมัติได้ ในขณะที่บางบริษัทนำ AI มาปรับปรุงประสิทธิภาพ และหลายแห่งก็กำลังทดสอบโมเดลขนาดใหญ่และผู้ช่วย AI อัจฉริยะ (agentic AI)
อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าการนำ AI มาใช้งานจะยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น สิ่งสำคัญคือผู้บริหารจำเป็นที่จะต้องเฝ้าระวังความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเสี่ยงที่เกิดจากเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์แบบรู้สร้าง (generative AI: GenAI)
“ธุรกิจไทยที่นำเทคโนโลยี AI มาใช้ โดยเฉพาะ GenAI กำลังเผชิญกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลและความเป็นส่วนตัว”นาย ริชี กล่าว
สำหรับ agentic AI ที่หลายบริษัทกำลังทดสอบการใช้งาน ความเสี่ยงเหล่านี้ยังขยายไปสู่ช่องโหว่ภายในเอเจนต์ การเข้ายึดบัญชีผู้ใช้งาน ระบบยืนยันตัวตนที่อ่อนแอ การขาดการกำกับดูแล ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน การจัดการข้อมูล และที่สำคัญกว่านั้น คือการโจมตีทางไซเบอร์
ทั้งนี้ บทความของ PwC ประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่อง ‘Building trust in AI from the ground up: How you can secure the data behind it’ ระบุว่า การปกป้องข้อมูลและความไว้วางใจกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผู้นำธุรกิจ โดย 48% ของผู้ถูกสำรวจจัดให้ประเด็นเหล่านี้เป็นลำดับความสำคัญสูงสุดในการลงทุนด้านไซเบอร์ แซงหน้าการปรับปรุงเทคโนโลยีให้ทันสมัยที่ 43%
นอกจากนี้ โมเดล AI อาจให้ข้อมูลเชิงลึกที่คลาดเคลื่อน สร้างความเสี่ยงด้านการปฏิบัติตามกฎหมาย และยังทำให้ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเสียหายได้หากข้อมูลไม่ถูกต้องและปล่อยให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย โดยบทความของ PwC ชี้ว่า ธุรกิจควรจัดการกับความเสี่ยงด้านข้อมูลที่สำคัญก่อนที่จะปลดล็อกศักยภาพของ AI อย่างเต็มที่ ซึ่งความเสี่ยงเหล่านี้ ได้แก่
1. คุณภาพข้อมูล (data quality): โมเดล AI ที่ได้รับการฝึกอบรมจากข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง ซ้ำซ้อน หรือล้าสมัย อาจสร้างผลลัพธ์ที่ไม่น่าเชื่อถือ และนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด
2. การปกป้องข้อมูล (data protection): การเข้าถึงข้อมูลสำคัญโดยไม่ได้รับการควบคุม เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมือ AI อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และการละเมิดข้อมูล
3. การปฏิบัติตามข้อมูล (data compliance): หากไม่มีการจำแนกประเภทและการกำกับดูแลข้อมูลที่เหมาะสม ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI อาจประมวลผลข้อมูลสำคัญในลักษณะที่ละเมิดกฎระเบียบด้านความเป็นส่วนตัวได้
4. การเปิดเผยข้อมูล (data exposure): เครื่องมือ AI ที่ขาดการควบคุมการเข้าถึงอย่างเหมาะสมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภัยคุกคามจากภายใน การแบ่งปันข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และการรั่วไหลของข้อมูล
ทั้งนี้ การจัดการความเสี่ยงด้านข้อมูล ไม่ได้หมายถึงเพียงการลดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการสร้างความไว้วางใจ ปรับปรุงการตัดสินใจ และทำให้การใช้งาน AI เป็นไปตามกฎระเบียบ ซึ่งการนำมาตรการกำกับดูแลและความปลอดภัยที่แข็งแกร่งมาใช้ จะช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ศักยภาพของ AI ได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งลดความเสี่ยงล
แนะใช้แนวทางการกำกับดูแลข้อมู ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบ
ภาคธุรกิจไทยจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ด้านการกำกับดูแลข้อมูล เพื่อตอบสนองต่อปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นและกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงไป ในปัจจุบันองค์กรหลายแห่งกำลังขยายกรอบการทำงานเพื่อจัดการบทบาทของ AI ในการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม การยึดติดกับแนวทางเดิมที่ล้าสมัยอาจนำไปสู่ปัญหาด้านความปลอดภัยที่กว้างขึ้น เช่น วิธีการเข้ารหัสที่อ่อนแอ และแนวปฏิบัติการควบคุมการเข้าถึงที่ไม่สอดคล้องกัน เป็นต้น
“การกำกับดูแล AI มีบทบาทสำคัญในการสร้างความไว้วางใจในหมู่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งเริ่มต้นจากการออกแบบและพัฒนาโมเดลที่เหมาะสมและขยายไปถึงความโปร่งใส ความยุติธรรม ความปลอดภัย และการเคารพในความเป็นส่วนตัว ข้อมูลถือเป็นหัวใจสำคัญของความสมบูรณ์ของ AI ซึ่งต้องได้รับการปกป้องอย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยตลอดวงจรชีวิตของข้อมูล”นาย ริชี กล่าว
โดยภาคธุรกิจควรดำเนินการเพื่อสร้างการกำกับดูแล AI ที่แข็งแกร่ง ดังนี้
– พัฒนานโยบายที่ชัดเจนสำหรับการพัฒนาและปรับใช้โมเดล AI
– รับรองความโปร่งใสโดยการบันทึกกระบวนการตัดสินใจเกี่ยวกับ AI
– ดำเนินการตรวจสอบเป็นประจำเพื่อประเมินการปฏิบัติตามกฎระเบียบความเป็นส่วนตัว
“ภูมิทัศน์ทางธุรกิจของประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านจากการใช้ AI ในระดับพื้นฐานไปสู่โซลูชันครบวงจรที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เราพบว่ากระบวนการและเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วย AI ส่งผลกระทบอย่างมากต่อประสบการณ์ของลูกค้า ประสิทธิภาพในการดำเนินงาน และการจัดการความเสี่ยง และยังสามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและการเงิน ซึ่งครอบคลุมทั้งการวิเคราะห์แบบตอบสนองและเชิงคาดการณ์ รวมไปถึงการจัดการองค์ความรู้ การเฝ้าระวัง และอื่น ๆ อีกมาก”นาย ริชี กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 มิ.ย. 68)
Tags: AI, PwC, ความปลอดภัยทางไซเบอร์, ปัญญาประดิษฐ์, ริชี อานันท์(责任编辑:琉璃璎珞)
- ·Revisiting the GeForce GTX 680: GTX 1050 Ti
- ·Call of Duty: Modern Warfare II Season 04 Reloaded — Vondel Waterfront Map Intel
- ·Sinner vs. Djokovic 2025 livestream: Watch French Open for free
- ·14 Heists, Robberies, and Other Great Capers
- ·รมว.แรงงาน ลั่นปกป้องผลประโยชน์ผู้ประกันตน เดินหน้าฟันทุจริตปมซื้ออาคาร Skyy9 : อินโฟเควสท์
- ·世界杯抽签档位确定 葡萄牙压哨入选第一档
- ·Vụ Công ty C.P bị tố 'bán thịt bẩn': Công an Hậu Giang, Sóc Trăng xác minh
- ·《找一个不伤心的理由》(刘恺名演唱)的文本歌词及LRC歌词
- ·三层别墅装修如何设计 三层别墅装修楼梯设计
- ·均薪超7000万!若字母留队 明夏有资格签4年2.9亿美元合同